GenDHL
75
0
การรัดหน้าอกในผู้ชายข้ามเพศ หรือผู้ที่ไม่มีกรอบทางเพศ อาจทำให้เกิดความเสี่ยงในทางลบต่อร่างกายได้ โดยเฉพาะผู้ที่วางแผนจะผ่าตัดหน้าอกในอนาคตแชร์บทความนี้
การรัดหน้าอก (Chest blinding) เป็นวิธีที่เหล่าผู้ชายข้ามเพศ และผู้ที่มีเพศสภาพเป็นผู้หญิงโดยกำเนิดแต่มีจิตใจเป็นชาย นิยมใช้เพื่อทำให้หน้าอกแบนราบ เพราะสำหรับกลุ่มผู้ชายข้ามเพศ ผู้ที่ไม่มีกรอบทางเพศ (Non-binary) หน้าอกคือจุดที่แสดงอัตลักษณ์ทางเพศที่ชัดเจนมากเกินไปแม้การรัดหน้าอกจะสามารถลดความรู้สึกไม่พอใจในเพศ (Gender Dysphoria) ลงได้ แต่ก็อาจทำให้เกิดผลที่ไม่ดีต่อร่างกายได้เช่นกัน
การรัดหน้าอกทำได้หลายวิธี บางคนใช้วิธีพันผ้าอีลาสติก (ผ้ายืดสำหรับพันกล้ามเนื้อ) แผ่นพลาสติกรัดรอบหน้าอก ขณะที่บางคนก็เลือกใช้เครื่องแต่งกายชนิดพิเศษสำหรับรัดหน้าอกโดยเฉพาะ ซึ่งทุกคนจะมีวิธีรัดหน้าอกที่ต่างกันออกไป มีการศึกษาหนึ่งที่ทำการสำรวจผู้ที่ทำการรัดหน้าอก ได้ผลสรุปว่า พวกเขาจะมีการรัดหน้าอกเป็นเวลา 10 ชั่วโมงต่อวันโดยเฉลี่ย โดยวิธีที่คนส่วนมากใช้คือการใช้สเตย์รัดหน้าอก
การรัดหน้าอกเป็นประจำ จะส่งผลต่อผิวหนัง กล้ามเนื้อ และการเคลื่อนไหว หากรัดหน้าอกเป็นเวลานาน และรัดอย่างแน่นหนา อาจทำให้อากาศบริเวณหน้าอกถ่ายเทไม่สะดวก ซึ่งจะทำให้เชื้อราและแบคทีเรียมีการเจริญเติบโตขึ้น นอกจากนี้ยังอาจทำให้ความสามารถในการหายใจลงได้อีกด้วย
มีการศึกษา 2 ชิ้นเกี่ยวกับผู้ที่ใช้วิธีรัดหน้าอก ที่ตีพิมพ์ในปี 2017 และ 2018 โดยการศึกษาทั้งสอง เป็นการศึกษาแบบ Cross-Sectional Studies ที่ทำการสังเกตการณ์ประชากรนั้นๆ ในช่วงเวลาหนึ่ง และทั้งสองการศึกษาได้ใช้ข้อมูลการตอบคำถามออนไลน์จาก 1,800 คน ซึ่งได้ข้อมูลว่า ผู้คนส่วนมาก (89-97%) เคยประสบกับอาการทางลบจากการรัดหน้าอกอย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต โดยมีผลดังต่อไปนี้
จากการศึกษาจากปี 2017 พบว่าผู้ที่รัดหน้าอกเกือบ 9 ใน 10 คน ประสบกับผลเสียจากการใช้ที่รัดอย่างน้อย 1 ครั้ง และมี 8 ใน 10 คนที่รู้สึกว่า ควรนำประเด็นการใช้ที่รัดหน้าอกไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ แต่มีเพียง 3 จาก 20 คน (15%) ที่ได้เข้าไปพบแพทย์อย่างจริงจัง
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่รัดหน้าอกอยู่ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้ เพื่อไม่ให้ส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว
https://hd.co.th/chest-blinding
คุยกับ Gen AI